เกลื้อนน้ำนม Pityriasis alba
หรือ เป็นผื่นผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ตามชื่อ เกลื้อนน้ำนม หรือ กลากน้ำนม มักทำให้เข้าใจผิดว่าเกิดจากเชื้อราหรือ จากคราบน้ำนมที่เปื้อนบริเวณแก้ม ความสกปรกต่างๆ ซึ่งไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง เราจะเห็นผื่นเป็นรอยขาวจางกว่าสีผิวปกติ พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะเด็กสีผิวเข้ม
เกลื้อนน้ำนม สาเหตุเกิดจากอะไร ?
ยังไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่าอาจเกิดจากการถูกแสงแดดจัด เช่น เป็นหลังไปเที่ยวทะเล เล่นกีฬากลางแจ้งเป็นเวลานาน ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีที่ผิวหนังทำงานน้อยลง หรือเกิดจากการอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ ทำให้ผิวแห้ง อักเสบ และเกิดผื่นเกลื้อนน้ำนมได้
ลักษณะผื่นเป็นอย่างไร?
ผื่นเริ่มแรกจะรอยแดงเล็กน้อย ขอบเขตไม่ชัดเจน แต่ต่อมาจะกลายเป็นรอยขาว เป็นหย่อมๆ ขอบเขตไม่ชัดเจน มักเป็นบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง หน้าผาก รอบปาก รอบตา บางคนถ้าเป็นมากอาจมีผื่นที่ลำตัว คอ แขน ขา ได้ ผื่นมักไม่คัน และมักพบในเด็กที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเนื่องจากผื่นเป็นรอยขาว ทำให้ดูคล้ายกับโรคอื่นๆ ที่ผื่นเป็นรอยขาว เช่น เกลื้อนจากเชื้อรา, โรคด่างขาว โรคเรื้อน และมะเร็งผิวหนังบางชนิดควรปรึกษาหมอผิวหนังเด็กเพื่อให้การวินิจฉัยแยกโรค
รักษาอย่างไร?
- ใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อนๆ เช่น 1% hydrocortisone
- ยากลุ่ม Calcineurin inhibitor เช่น Tacrolimus, Pimecrolimus
- ทาโลชั่นสำหรับเด็กผิวแพ้ง่าย ให้ความชุ่มชื้น และสามารถลดการอักเสบที่ผิวหนัง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์ได้
ป้องกันได้อย่างไร?
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดสำหรับเด็ก (เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป) ก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อนเป็นเวลานาน จะป้องกันผื่นใหม่ได้
จะหายเมื่อไหร่?
ผื่นมักเป็นเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ อยู่นานหลายเดือน หรือหลายปี แต่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด การดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ทาโลชั่นบ่อยๆ จะช่วยลดผื่นลงได้
บทความโดย
นพ. ณัฐพล ธรรมสกุลศิริ แพทย์ผิวหนังเด็ก
โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา
ปัญหาผิวลูกน้อยปรึกษาคุณหมอผิวหนังเด็กฟรี
นพ. ณัฐพล ธรรมสกุลศิริ รพ. พญาไทศรีราชา